ระบบประสาทจัดการการเทรด NeuroInvesting

ทำอย่างไรจึงจะได้กำไรจากหุ้นที่เราซื้อ ผมว่าหลายคนคงเคยได้ยินเรื่อง ใช้เทคนิคคอล, ใช้ money management, ใช้จิตวิทยา โดยทั้ง 3 ตัวจะแบ่งกี่เปอร์เซ็นต์ก็ว่ากันไป บางทีเคยคิดบางมั้ยว่าแบ่งยังไงกันเหรอให้ออกมาเป็นเปอร์เซ็นต์ได้ (ใครรู้บอกทีว่าที่ใช้เทคนิคอยู่ ตอนนี้เป็นกี่เปอร์เซ็นต์ของศักยภาพการเทรดของคุณเอง) 

ในช่วงเวลาที่ตลาดหุ้นบ้านเราเริ่มบูมอีกครั้ง ดัชนีเกือบจะทดสอบ High มีรายย่อยหน้าใหม่เข้ามาในตลาด ศึกษา Technical มากมายเพื่อให้อยู่รอดในตลาด ศึกษา indicators หลากหลายรูปแบบ ทั้ง lead time, lag time แต่ขณะที่บ้านเราศึกษา indicators ในต่างประเทศก้าวข้ามกันไปจนถึงการพัฒนา Investing Brain ผ่านกระบวนการ Neuro Science ผมเป็นคนที่ใช้เครื่องมือเทคนิคเยอะพอๆกับ ใช้ Psychology โดยผ่านกระบวนการ NLP การจะเข้าซื้อหุ้นแต่ละตัวใช้เงื่อนไขประกอบมากมายเพราะเงื่อนไขการเข้าซื้อเป็นเหมือนกระดุมเม็ดแรก เพราะถ้าติดเม็ดแรกผิด ยากที่เม็ดต่อๆไปมันจะถูก แต่เมื่อติดกระดุมเม็ดแรกเสร็จแล้ว นั่นแหล่ะคือสิ่งที่เราจะต้องบริหารสมอง เพื่อบริหารหุ้นตัวนั้นเพื่อสร้างให้พอร์ทเติบโต ไม่ใช่รอแค่สัญญาณแล้วขาย เพื่อทำกำไรหรือคัทลอส

ผมจะยกตัวอย่างเงื่อนไขการใช้ NLP มาเป็น psychology trading ประกอบกระบวนการคิดในการเทรด

1: การรับรู้เพื่อเกิดแรงกระตุ้นของระบบประสาท (impulse) ที่เกิดขึ้นเป็นเพียง"แผนที่" ที่สร้างขึ้นเพื่ออธิบาย"พื้นที่จริง" ไม่ว่าแผนที่จะดีแค่ไหน แต่แผนที่ก็คือแผนที่ ไม่มีวันเป็นพื้นที่จริง ฉะนั้นเทรดเดอร์ต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธ์เมื่อพื้นที่จริงมาถึง ==>NLP สอนให้รู้ว่าแต่ละคนมี"แผนที่"ทางความคิด ไม่ว่าจะวางแผนการเทรดไว้เลิศหรูแค่ไหน แต่แผนที่ก็คือแผนที่ เมื่อถึงหน้างานในพื้นที่จริง เทรดเดอร์ต้องรู้จักปรับเปลี่ยน อย่าเสียโอกาสเพียงเพราะคิดว่าแผนที่เดิมดีอยู่แล้ว อย่าเอาแผนที่มาปนกับพื้นที่จริ

2:ในโลกนี้ไม่มีความล้มเหลว มีแต่ผลลัพธ์ หากเราหมั่นฝึกฝนและปรับเปลี่ยนระบบประสาทของเราให้เข้าใจเงื่อนไขนี้ได้ เราจะไม่รู้สึกต่ออารมณ์หรือความเสียหายที่เกิดขึ้นในการเทรด NLP สอนว่าความล้มเหลวก็แค่ผลลัพธ์ที่เกิดมาจากการตัดสินใจในครั้งนั้นๆ มันเป็นไปอย่างนั้นเองตามเงื่อนไขของมัน ซึ่งมันอาจจะมาจากความไม่ครบถ้วนของทรัพยากรในการประกอบการตัดสินใจ ส่วนอารมณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดจากความผิดพลาด แต่เกิดจากระบบประสาทที่รับรู้ต่อเหตุการณ์นั้นเท่านั้นเอง ถ้าเทรดเดอร์เทรดพลาด ไม่ใช่แก้ที่การคัทลอส แต่ควรต้องแก้ที่กระบวนการคิดเพื่อเข้าเทรดตั้งแต่ครั้งแรก

3: ทุกพฤติกรรมล้วนมาจากเจตนาดีของตัวเราเองทั้งสิ้น, NLP สอนว่าสิ่งที่เราคิด ย่อมอยู่บนพื้นฐานของเจตนาที่ดีต่อ"ตัวเราเอง"ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะรู้ตัวหรือไม่รู้ตัวก็ตามฉะนั้น แต่ละครั้งที่ส่งคำสั่ง นั่นคิดเราทำเพราะเจตนาดีต่อตัวเองในภาวะการณ์นั้นๆ แต่ถ้าผลลัพธ์ออกมาไม่ดี...เราก็ต้องปรับเปลี่ยนกระบวนการคิดให้แตกต่างออกไป

4: การมีทางเลือกที่มาก ย่อมเป็นการดีเสมอ นั่นจะย้อนกลับไปตอบโจทย์ในข้อ 1 ว่าทำไมเราจึงควรมีแผนที่หลายแบบในความคิดของเรา

5: ความสำเร็จจะเกิดขึ้นเมื่อทรัพยากรมีความพร้อมเพียง, NeuroInvesting ไม่ได้มองว่าความสำเร็จเกิดขึ้นมาเพราะรอให้โชคช่วย หรือรอให้ระบบเทรดทำงานหลังจากเข้าซื้อหุ้น อะไรก็ตามที่เราได้มาด้วยการไม่เจตนา เช่นซื้อหุ้นที่เพิ่งปั่นราคา โดยปราศจากการทำการบ้าน นั่นไม่ใช่ความสำเร็จ มันเป็นแค่เหตุการณ์หนึ่งที่เกิดขึ้นเท่านั้น เพราะเทรดเดอร์ไม่สามารถทำให้เกิดซ้ำได้ตามต้องการ ฉะนั้นยิงกระสุนเมื่อเงื่อนไขการเทรดทุกอย่างพร้อม แล้วความสำเร็จจะมาเองอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

นี่เป็นเพียงหลักการบางส่วนของการปรับสมอง ปรับความคิด ซึ่งมันเป็นแค่แก่นของ NLP เมื่อนำมาปรับใช้กับการเทรดเพื่อให้เกิดเป็นรูปแบบของ Neuro Investing ต้องผ่านกระบวนการทางความคิดมากมาย แต่ขอให้ตระหนักไว้เสมอว่า "ถ้าไม่เปลี่ยนวิธีการ ผลลัพธ์ก็จะไม่มีวันเปลี่ยน อะไรก็ตามที่เคยทำกันแบบเดิมๆ ก็ย่อมได้ผลลัพธ์เดิมๆ"

นอกเสียจากคุณพอใจกับสิ่งเดิมๆที่เป็นอยู่

เมื่อปรับเปลี่ยนกระบวนการคิดแล้ว return จะตามมาเอง




Banksy Trader
25/4/57

Comments